TNR ตั้งเป้าดันรายได้ปี 62 เติบโต 20% รุกเพิ่มยอดขาย ONETOUCH และ PLAYBOY

>>

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยภายใต้แบรนด์ ONETOUCHTM และ PLAYBOY เปิดเผยว่า ในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,460 ล้านบาท และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน

โดยทิศทางการดำเนินงานจะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (company’s trademark) เป็น 20% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่10% ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ ONETOUCH ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า และแบรนด์ PLAYBOY ที่ได้รับสิทธิ์ในการขายและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นรวม 188 ประเทศทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) และกลุ่มธุรกิจงานประมูล (Tender)

ทั้งนี้ในการรุกเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้วางตำแหน่ง ONETOUCHTM เป็นแบรนด์เจาะกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลในประเทศไทยและกลุ่ม CLMV โดยปี 2562 บริษัทฯ เตรียมงบโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์ และมีแผนจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นการขายสินค้ามากยิ่งขึ้นและขยายฐานลูกค้าใหม่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ ONETOUCHTM มาก่อน เป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยโดยสิ้นปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 27% ขณะที่แนวโน้มตลาดถุงยางอนามัยในประเทศไทยคาดว่าจะมีปริมาณการใช้ใกล้เคียงกับปีก่อน

 

PLAYBOY เจาะกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มพรี่เมี่ยม 

ส่วนการขยายตลาดแบรนด์ PLAYBOY ได้วางตำแหน่งเป็นแบรนด์เจาะกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มพรีเมี่ยมในไทยและต่างประเทศ โดยหลังจากได้รับสิทธิ์การขายและการตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา ได้เดินทางพบกับคู่ค้าในภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมทั้งวางระบบพัฒนาผู้แทนจำหน่ายและการวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดร่วมกับผู้แทนจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ส่วนแผนงานในปีนี้จะรุกขยายตลาดในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ยุโรป แอฟริกา อาเซียนและตะวันออกกลาง ทั้งการเพิ่มประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ และการเพิ่มยอดขายสินค้าในประเทศคู่ค้ารายเดิม

นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายสินค้าในกลุ่มธุรกิจ OEM เติบโตจากปีก่อนประมาณ 10-15% โดยปัจจุบันยังคงมีคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากลูกค้าในภูมิภาคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มธุรกิจงานประมูลจะเน้นเข้าประมูลงานที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและสามารถควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อย่างไรก็ตามในระยะยาวบริษัทฯ จะทยอยปรับลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจงานประมูลและหันมามุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ มากขึ้น

“นับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลายปี 2559 เรามีนโยบายเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้น่าจะเห็นภาพชัดเจนหลังจากเราได้สิทธิ์แบรนด์ PLAYBOY ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่คนไทยและต่างประเทศรู้จักดี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ยังมีโอกาสเติบโตอย่างมาก"

นายสุเมธ มาสิลีรังสี ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน TNR กล่าวว่า ในปีนี้น่าจะเป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีขึ้นทั้งในด้านยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น โดยนอกจากแผนงานเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ONETOUCHTM และ PLAYBOY แล้ว คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ผลดีจากราคาวัตถุดิบหลักในตลาดโลกที่ปรับลดลง ได้แก่ ราคาซิลิโคนที่ปรับลดลงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและสถานการณ์ราคาน้ำยางที่อยู่ในช่วงลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารต้นทุนการผลิตสินค้าในปีนี้